[รีวิว] Xiaomi Mi Mix ที่สุดของเรือธงหน้าจอไร้ขอบ
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477557810_8912756a2699.jpg)
กลายเป็นพระเอกที่ขโมยซีนงานเปิดตัว Xiaomi Mi Note 2 อย่างแท้จริงสำหรับเรือธงรุ่นใหม่ที่เปิดตัวมาเคียงคู่กันอย่าง Xiaomi Mi Mix ที่ชูจุดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลไร้ขอบสุดล้ำจนกินพื้นที่แสดงผลถึง 91.3%นอกจากนี้ทาง Xiaomi ยังอัดสเปกมาให้แบบจัดเต็มพร้อมจุดเด่นอีกมากมายเช่น เซ็นเซอร์วัดระยะแบบ Ultrasonic ฝังใต้หน้าจอทำให้ช่วยลดพื้นที่ขอบด้านบนออกไป รวมไปถึงตัวเครื่องที่ผลิตมาจากวัสดุแบบ Ceramic เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง
ถึงแม้ว่า Xiaomi Mi Mix จะยังไม่ถึงกำหนดการวางจำหน่ายจริงในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ล่าสุดได้มีผู้ใช้บางส่วนเริ่มจับมาพรีวิวให้รับชมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาดูกันดีกว่าหน้าตาโดยรวมของ Xiaomi Mi Mix จะมีความสวยงามและน่าใช้ขนาดไหน
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477554308_2149922d0096.jpg)
Xiaomi Mi Mix มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2040 x 1080 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 362ppi อัตตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องถึง 17 : 9 หรือคิดเป็นพื้นที่ทั้งหมด 91.3% เลยทีเดียว ด้านตัวเครื่องผลิตด้วยวัสดุ Ceramic ทั้งชิ้น พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 821 ตัวล่าสุด จับคู่กับหน่วยความจำ RAM สูงสุด 6GB และหน่วยความจำภายในขนาดใหญ่ถึง 256GB ด้วยกัน
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477554699_694153218e29.jpg)
ด้านบนของหน้าจอค่อนข้างจะแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป เนื่องจากไม่มีลำโพงสนทนา กล้องดิจิทัลด้านหน้า รวมไปถึงเซ็นเซอร์ต่างๆ โดย Xiaomi แอบฝังเซ็นเซอร์วัดระยะ (Proximity Sensor) แบบ Ultrasonic ไว้ภายใต้หน้าจอแสดงผลไว้อย่างแยบยล ส่วนลำโพงสนทนาก็จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี cantilever piezoelectric ceramic acoustic เพื่อให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงไปยังแก้วหูโดยตรงไม่ต้องผ่านลำโพง
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477555104_1278883fe5df.jpg)
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผลไม่มีปุ่มควบคุมการทำงาน โดยจะสั่งการผ่านแถบ Navigation Bar บนหน้าจอเท่านั้น ส่วนบริเวณด้านขวาล่างติดตั้งกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเซ็นเซอร์ขนาดเล็กกว่ามาตรฐานประมาณ 50%
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477555391_71497568cda8.jpg)
ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วยลำโพงสเตอริโอ และพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477557308_896648830e62.jpg)
ด้านหลังของตัวเครื่องผลิตด้วยวัสดุแบบ Ceramic แบบขัดเงา พร้อมกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 และไฟแฟลชแบบ Dual-LED ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วนบริเวณด้านล่างจะถูกประทับคำว่า "MIX DESIGNED BY MI" โดยใน Mi Mix 18K รุ่นพิเศษ จะถูกตัดขอบด้วยทองคำ 18K บริเวณรอบกล้องดิจทัลและเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย ทำให้ตัดกับสีดำเงาของตัวเครื่องเป็นอย่างดี
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477557119_4698741edab7.jpg)
สำหรับใครที่กลัวว่ามือถือดีไซน์ไร้ขอบแบบนี้จะหาเคสใส่ยากก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะภายในกล่องจะแถมเคสที่ปกป้องรอยนิ้วมือมาให้อย่างเสร็จสรรพ
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477556002_0938701ae566.jpg)
Xiaomi Mi Mix ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย MIUI เวอร์ชัน 8 โดยรุ่นความจุ 256GB จะเหลือพื้นที่ให้ใช้งานประมาณ 244GB
![](http://www.techmoblog.com/uploads/content_images/201610/img_1477555932_78998018df7b.jpg)
ลองจับมาเปรียบเทียบกับ iPhone และ Google Pixel XL จะเห็นได้ว่า Xiaomi Mi Mix มีขนาดตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกับเรือธงรุ่นอื่นที่มีขนาดหน้าจอเพียงแค่ 5.5 นิ้ว ถึงแม้ว่าจะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าก็ตาม เพราะได้ขยายส่วนของหน้าจอแสดงผลให้ยืดขึ้นไปแทนที่ขอบจอนั่นเอง
โดยราคาของ Xiaomi Mi Mix นั้น เริ่มต้นที่ 3,499 หยวน หรือประมาณ 18,100 บาท สำหรับรุ่นปกติ RAM 4GB + ROM 128GB ส่วน Mi Mix ตัดขอบทอง 18K รุ่นพิเศษ RAM 6GB + ROM 256GB เปิดตัวมาด้วยราคา 3,999 หยวน หรือประมาณ 20,700 บาท ซึ่งจะทำการวางจำหน่ายที่ประเทศจีนอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 พฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าจะมีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในกลุ่มประเทศอื่นด้วยหรือไม่