[รีวิว] Samsung Galaxy A7 (2017) อัปเกรดใหม่หมดจด


เปิดตัวพร้อมประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy A7
(2017) สมาร์ทโฟนรุ่นสานต่อเวอร์ชันอัปเกรดใหม่ประจำปีนี้ ซึ่งพลิกโฉมการดีไซน์อีกครั้งด้วยบอดี้โลหะแบบโค้งมน พร้อมยกระดับความทนทานด้วยฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งเป็นคุณสมบัติแบบเดียวกับที่มีบน
มือถือเรือธงรุ่นพี่อย่าง Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge นั่นเอง
สำหรับคุณสมบัติของ Samsung Galaxy A7 (2017) เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะได้อัปเกรดคุณสมบัติรอบด้านจากรุ่นก่อน ไม่ว่าจะหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ใหญ่มากขึ้นที่ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos 7880 แบบ Octa-Core Processor ซึ่งจะจับคู่การทำงานกับหน่วยความจำ RAM 3GB, หน่วยความจำภายในความจุ 32GB, แบตเตอรี่ความจุ 3600mAh รองรับเทคโนโลยี Fast Charging และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ที่ได้รับการปรับปรุงให้สะอาดตายิ่งกว่าเดิม 
นอกจากนี้ ยังชูจุดเด่นด้านการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 และไฟแฟลชแบบ LED พร้อมรองรับการใช้งานบริการชำระเงินรูปแบบใหม่อย่าง Samsung Pay ด้วย โดยทาง Samsung เปิดราคาในประเทศไทยเอาไว้ที่ 16,490 บาท
วันนี้ทางทีมงาน techmoblog จะพาทุกท่านไปดูกันหน่อยว่า Samsung Galaxy A7 (2017) จะน่าสนใจเพียงใดและมีฟีเจอร์เด็ดอะไรบ้าง เชิญรับชมไปพร้อมๆ กันครับ
สเปก Samsung Galaxy A7 (2017)
  • หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) พร้อมฟีเจอร์ Always-on Display 
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Exynos 7880 Octa-Core Processor ความเร็ว 1.9GHz
  • หน่วยประมวลผลกราฟฟิก Mali-T830MP3
  • หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB
  • หน่วยความจำภายในความจุ 32GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card ความจุสูงสุด 256GB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสุงสุด f/1.9 ทางยาวโฟกัส 27mm และไฟแฟลชแบบ LED รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p
  • ฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 สามารถกันน้ำลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานสุด 30 นาที
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด
  • รองรับเทคโนโลยี NFC
  • แบตเตอรี่ความจุ 3600mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Fast Charging
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Andriod 6.0 Marshmallow
>> สเปก Samsung Galaxy A7 (2017) อย่างละเอียด คลิกที่นี่
รีวิว Samsung Galaxy A7 (2017) : ดีไซน์ และการออกแบบ
Samsung Galaxy A7 (2017) มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1808 พิกเซล ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass เพื่อปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วน และการตกกระแทก ด้านบอดี้ผลิตด้วยวัสดุประเภทโลหะผสมผสานกับกระจก และขึ้นรูปแบบ Unibody  โดยมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 156.8 x 77.6 x 7.9mm ซึ่งถือว่าขนาดตัวเครื่องไม่แตกต่างกับรุ่นเดิมมากเท่าไหร่นัก ถึงแม้ว่าจะขยายหน้าจอให้ใหญ่กว่าเดิมก็ตาม
ด้านบนของจอแสดงผล ประกอบไปด้วย ลำโพงสำหรับสนทนา พร้อมกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 และเซ็นเซอร์ต่างๆ
ด้านล่างของจอแสดงผล ประกอบไปด้วย ปุ่ม Recent App, ปุ่มโฮมที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ด้านใต้ และปุ่มย้อนกลับ
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด หรือล็อกหน้าจอแสดงผล และลำโพงหลักของเครื่อง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง และช่องใส่ซิมการ์ดที่ 1
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ไมค์ตัดเสียงรบกวน และ ช่องใส่ซิมการ์ดที่ 2 + ช่องใส่ microSD Card ทำให้ใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ดพร้อมเพิ่มความจุด้วย microSD Card ได้เลย พร้อมส่วนด้านล่าง ประกอบไปด้วย พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และช่องหูฟังขนาด 3.5 มม.
ด้านหลังของตัวเครื่อง ผลิตมาจากวัสดุประเภทกระจกที่มีความเงางาม พร้อมกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 และไฟแฟลชแบบ LED โดยฝาหลังไม่สามารถแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2017) ยังอัปเกรดความสามารถด้านการใช้งานในสภาวะอากาศที่หลากหลาย ด้วยคุณสมบัติการกันน้ำกันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานสุด 30 นาที
รีวิว Samsung Galaxy A7 (2017) : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น
Samsung Galaxy A7 (2017) ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 พร้อมอินเทอร์เฟสที่ได้รับการปรับปรุงให้ดูสะอาดตามากยิ่งขึ้น โดยภายในหน้าโฮมสกรีนผู้ใช้งานสามารถจัดเรียงแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงเพิ่ม Widget ได้
ลากนิ้วจากบนลงล่าง จะปรากฏ Notification Center หรือแถบแจ้งเตือน พร้อมกับปุ่มเมนูลัดเพื่อสั่งการ และตั้งค่าการใช้งานของตัวเครื่อง ซึ่งเมื่อกดที่ไอคอนค้างไว้ ผู้ใช้งานสามารถเพิ่ม-ลบ คีย์ลัดเพิ่มเติมได้
Recent Apps หน้าต่างแสดงแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานไว้ทั้งหมด และสำหรับปิดการทำงานของแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการ
App Drawer หน้ารวมแอปพลิเคชันที่ถูกติดตั้งไว้ทั้งหมดบนตัวเครื่อง โดยผู้ใช้สามารถสร้างโฟลเดอร์เพื่อเก็บรวมแอป หรือถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ไม่ต้องการใช้งานอีกต่อไปได้
แอปพลิเคชันพื้นฐานจาก Microsoft และ Google ถูกติดตั้งมาให้แบบครบครัน
รวมถึงแอปพลิเคชันอื่นๆ อย่าง เครื่องคิดเลข, โปรแกรมจัดการไฟล์, วิทยุ FM และเบราว์เซอร์
นอกจากนี้ยังมี Secure Folder ซึ่งเปรียบเสมือนเกราะป้องกันข้อมูลในแอปพลิเคชันของผู้ใช้งาน โดยแอปพลิเคชันที่อยู่ใน Secure Folder จะเป็นแอปที่แยกตัวออกมาจากแอปพลิเคชันหลัก และทำงานแยกออกจากกัน ทำให้สามารถใช้งานแอปอื่นๆ แบบ 2 ID ได้ เช่น Line หรือ Facebook เป็นต้น โดยผู้ที่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ ที่อยู่ใน Secure Folder จะมีแค่เพียงผู้ที่ทราบรหัสผ่าน หรือเจ้าของเครื่องที่ตั้งค่าสแกนลายนิ้วมือเอาไว้เท่านั้น
Samsung Galaxy A7 (2017) รองรับ Samsung Pay ซึ่งเป็นนวัตกรรมการชำระเงินรูปแบบใหม่ผ่านทางมือถือ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต แถมยังมีความปลอดภัยสูง ซึ่งผู้ใช้ในประเทศไทยสามารถเริ่มใช้งานได้แล้ววันนี้ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Samsung Pay ได้ที่นี่)
เบราว์เซอร์พื้นฐานที่ติดมากับตัวเครื่อง สามารถแสดงผลหน้าเว็บไซต์ได้อย่างครบถ้วน และใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น
Samsung Notes แอปพลิเคชันสารพัดประโยชน์สำหรับจดบันทึก โดยผู้ใช้สามารถเลือกพิมพ์ หรือขีดเขียนด้วยลายมือบนหน้าจอได้เลยทันที
Samsung Galaxy A7 (2017) ยังมีฟังก์ชันการใช้งานแบบอื่นๆ เช่น โหมดการทำงานมือเดียว ซึ่งกดปุ่มโฮมติดต่อกันเป็นจำนวน 3 ครั้ง เพื่อย่อแอปพลิเคชันให้เล็กลง สามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น หรือโหมด Pop-up windows ที่สามารถย่อหน้าต่างแอปที่กำลังใช้อยู่ให้เล็กลง เพื่อใช้งานพร้อมกันหลายแอปพลิเคชันพร้อมๆ กันนั่นเอง
ข้ามมาที่ประสิทธิภาพของตัวเครื่องกันบ้าง โดย Samsung Galaxy A7 (2017) ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Exynos 7880 Octa-Core Processor ความเร็ว 1.9Ghz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Mali-T830MP3 ซึ่งเมื่อลองทดสอบกับการเล่นเกม 3D ถือว่าสามารถทำงานได้อย่างน่าประทับใจ ลื่นไหลไม่มีสะดุด โดยจะมีแค่บางเกมเท่านั้นที่มีกราฟฟิกหนักๆ อย่าง Afterpulse ที่จะปรากฏอาการหน่วงให้เห็นบ้างเป็นระยะ
ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu สามารถทำคะแนนรวมได้ประมาณ 60679 คะแนน ส่วนผลการทดสอบด้วย Geekbench ทำคะแนนการประมวลผลแบบ Single-Core ได้ 761 คะแนน และทำคะแนนทดสอบการประมวลผลแบบ Multi-Core ได้ 3920 คะแนน
ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Sensor Box พบว่า Samsung Galaxy A7 (2017) มีเซ็นเซอร์ Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor, Magnetic Sensor และ Pressure Sensor ส่วนระบบสัมผัสแบบ Multi-touch รองรับทั้งหมด 10 จุด
รีวิว Samsung Galaxy A7 (2017) : ทดสอบกล้องถ่ายรูป
Samsung Galaxy A7 (2017) มาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมโหมด Beauty สำหรับปรับสีผิว, ความเพรียวของใบหน้า และตาโต นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การถ่ายเซลฟี่แบบ Panorama เพื่อให้เก็บภาพได้กว้างยิ่งขึ้น และมีโหมดเซลฟี่สำหรับการถ่ายในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ
ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 เท่ากับกล้องด้านหน้า และไฟแฟลชแบบ LED พร้อมโหมดการถ่ายรูปให้เลือกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โหมดโปร, Panorama, HDR หรืออาหาร โดยผู้ใช้สามารถโหลดโหมดการถ่ายภาพเพิ่มเติมจาก Samsung ได้ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า แบบไม่ใช้โหมด Beauty
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า พร้อมปรับโหมด Beauty ระดับ 4
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า พร้อมปรับโหมด Beauty ระดับ 8
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง
บทสรุปการใช้งาน
เรียกได้ว่า Samsung Galaxy A7 (2017) เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองไม่ใช่น้อยในปีนี่ เนื่องจากได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติของตัวเครื่องในด้านต่างๆ ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมขนาด 5.7 นิ้ว หน่วยความจำภายในที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวที่ 32GB และชูจุดเด่นกล้องหน้า-หลัง ความละเอียดสูงเท่ากัน 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/1.9 ซึ่งถือว่าเยอะกว่ารุ่นเก่าพอสมควรเนื่องจากมีความละเอียดกล้องหน้าเพียงแค่ 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลเท่านั้น ส่วนความจุแบตเตอรี่ก็ได้ขยายมากขึ้นเป็น 3600mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว พร้อมขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ที่ได้รับการปรับปรุง และสวยงามยิ่งกว่าเดิม
ในส่วนในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าประทับใจไม่ใช่น้อย เนื่องจาก Samsung Galaxy A7 (2017) มาพร้อมกับตัวเครื่องที่ผลิตด้วยวัสดุประเภทโลหะผสมผสานกับกระจก พร้อมยกระดับการใช้งานด้วยคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งเป็นคุณสมบัติแบบเดียวกันกับที่มีบนมือถือระดับเรือธงรุ่นพี่ นอกจากนี้ยังรองการใช้งาน Samsung Pay ซึ่งบริการจ่ายเงินผ่านมือถือรูปแบบใหม่ รวมถึงฟีเจอร์ Secure Folder ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นแอปพลิเคชันต่างๆ ได้แบบ 2 ID
โดยทาง Samsung แห่งประเทศไทยได้เปิดเผยราคาค่าตัวออกมาแล้วที่ 16,490 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสีด้วยกัน ประกอบไปด้วย สีทอง, สีดำ และสีฟ้า และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2560 ครับ
สำหรับผู้ที่ซื้อ Samsung Galaxy A7 (2017) จะได้รับสิทธิพิเศษเป็นมูลค่ารวมกว่า 6,000 บาท สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ www.techmoblog.com/Samsung-galaxy-a-2017-promotion/
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A7 (2017)
  • หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD
  • ดีไซน์ตัวเครื่องที่ผลิตด้วยโลหะผสานกระจก พร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Exynos 7880 แบบ Octa-Core Processor จับคู่การทำงานกับหน่วยความจำ RAM 3GB
  • หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับหน่วยความจำเสริม microSD Card สูงสุด 256GB
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมโหมด Beauty
  • กล้องดิจิทัลด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 และไฟแฟลชแบบ LED
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
  • รองรับการใช้งาน Samsung Pay
  • ฟีเจอร์ Secure Folder สำหรับเล่นแอปพลิเคชันแบบ 2 ID
  • รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G LTE Cat.6
  • รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด
  • ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS และ GLONASS ระบบดาวเทียมของรัสเซีย
  • รองรับเทคโนโลยี NFC
  • แบตเตอรี่ความจุ 3600mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว รองรับการใช้งานได้ตลอดวัน
  • โหมด Ultra Power Saving เพื่อปิดใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ไม่จำเป็น เพื่อขยายเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งกว่าเดิม
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
  • ไม่สามารถถอดแกะฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
  • กล้องหลังไม่มีระบบกันภาพสั่นไหว
  • ไม่รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K
  • ที่มา เทคโมบล็อก ดอทคอม

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[รีวิว] Xiaomi Mi Mix ที่สุดของเรือธงหน้าจอไร้ขอบ

[รีวิว] Dengo ไมโครโฟนคาราโอเกะไร้สาย พร้อมลำโพงในตัว